การใส่สูทแสดงถึงความสุภาพให้เกียรติต่อสถานที่ที่ไป เราใส่สูทในหลายๆ โอกาส ทั้งติดต่อธุรกิจ ไปงานที่เป็นทางการ เช่นงานศพ งานแต่งงาน หรือแม้แต่เจ้าบ่าวเองก็นิยมสวมสูท เรียกได้ว่าเราใช้สูทกันในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว แล้วมีวิธีเลือกสูทอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง การตัดสูทจะทำให้ได้สูทที่พอดีกับรูปร่างของเรา และสามารถเลือกเนื้อผ้า สีสันได้ด้วย แต่ถ้าต้องซื้อสูทสำเร็จล่ะจะดูอย่างไร
1.เลือกสูทที่พอดีกับรูปร่างตัวเอง คือพอดีกับหัวไหล่ ไม่เล็กไม่ใหญ่กว่านั้น โดยทั่วไปเสื้อสูทจะมีการเสริมฟองน้ำที่บ่า เพื่อให้ใส่แล้วดูสง่า ถ้าฟองน้ำเกินจากไหล่ถือว่าสูทใหญ่ไป แต่ถ้ามีรอยย่นที่หัวไหล่ แสดงว่าสูทตัวนี้เล็กไป แขนเสื้อควรยาวกว่าข้อมือประมาณ 1 นิ้ว เมื่อใส่ต้องเห็นเสื้อเชิ้ตโผล่ออกมานิดหนึ่ง สุทควรยาวประมาณครึ่งก้น ถ้ายาวเกินไปจะทำให้ดูตัวเล็ก ไม่ช่องว่างระหว่างสูทกับเสื้อเขิ้ต สูททรงสลิมฟิตเป็นเสื้อสูทที่เหมาะกับทุกๆ รูปร่าง ปลายขากางเกงยาวพอดีตาตุ่ม
– รูปร่างใหญ่ ควรเลือกเนื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา และมีสีเข้ม ไม่ใช้ผ้าที่มีลาย เพราะจะทำให้ดูตัวใหญ่ ควรเป็นสีพื้น เป็นสูทแบบพอดีตัว แต่ถ้าเป็นลายทางจะช่วยให้ดูตัวสูงขึ้น ใช้กระดุมแบบ 2 เม็ด เพราะเหมาะกับทุกรูปร่าง รอยผ่าตรงข้ามกับกระดุมแบบรอยเดียว หรือ Single Vent เพราะจะไม่เน้นให้ยิ่งดูตัวใหญ่
– รูปร่างผอมสูง เลือกผ้าที่มีน้ำหนักและมีสีอ่อนๆ เพื่อช่วยให้ดูตัวใหญ่ขึ้น ไม่ใส่สูทลายทาง เพราะจะยิ่งดูผอมและสูงขึ้น ใส่สูทแบบ 3 กระดุมเพราะเป็นแบบที่เหมาะกับคนผอม เลือกสูทแบบที่ไม่มีรอยผ่าด้านหลัง หรืออาจมีแค่รอยเดียว ควรใส่กางเกงทรงปกติ ห้ามใส่กางเกงเอวสูง เพราะจะทำให้ดูยิ่งสูง
– รูปร่างเล็ก ควรหลีกเลี่ยงผ้าที่มีลวดลาย หรือการพิมพ์ลายหนาๆ เลือกใช้ผ้าลายทาง จะช่วยทำให้ดูสูงขึ้น เลือกสูทแบบกระดุมเดียวหรือไม่เกินสองกระดุม กระดุมยิ่งน้อย ยิ่งทำให้ดูสมส่วน รอยผ่าด้านหลังเป็นแบบ Double Vent เพื่อช่วยเน้นรูปร่าง เลือกกางเกงทรงกระบอกจะทำให้ดูขายาวขึ้น
2.เลือกสีและเนื้อผ้าให้เป็นชุดเดียวกัน โดยทั่วไปสีสูทมาตรฐานมี 3 สีคือดำ เทา และน้ำเงิน แต่จะใส่สีอื่นๆ หรือแบบที่เป็นลายก็ไม่ผิดขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่ใช้