งานแต่งงานน่าจะเป็นวันแห่งความสุขของบ่าวสาว แต่ก่อนจะถึงช่วงเวลานั้น ก็มีเรื่องเครียดต่าง ๆ มากมาย เพราะต้องตระเตรียมงานหลายขั้นตอน หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดคือ Wedding Planner ที่ต้องมีความเป็นมืออาชีพ ไม่เทงาน ไม่ทำให้งานเสีย จนเกิดดราม่า อย่างที่เราเห็นข่าวกันบ่อย ๆ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเวดดิ้งแพลนเนอร์ ก็ควรเลือกให้ถี่ถ้วน และ Bride ก็มีวิธีเลือกมาฝากกันค่ะ
1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัท
ต้องเป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนรับรองถูกต้อง เชื่อถือได้ หรือเลือกชื่อของเวดดิ้งแพลนเนอร์ต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงการดูประสบการณ์การทำงาน ซึ่งหาดูได้จากรีวิวในอินเตอร์เน็ต หรือจะเข้าไปสอบถามในกลุ่มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ก็ได้ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงได้รับคำแนะนำจากผู้ที่เคยใช้บริการมาแล้ว
2. เซอร์วิสต้องชัดเจน
หลังจากที่เลือกบริษัทได้แล้ว ก็ต้องดูบริการของบริษัท ว่าครอบคลุมตามความต้องการหรือไม่ เพราะการมี Wedding Planner คือการมีผู้ช่วยจัดการให้เราได้เกือบทั้งหมด ทำให้เราเหนื่อยน้อยลง ถ้าพูดคุยแล้วรู้สึกว่าอาจจะทำให้เหนื่อยมากกว่าเดิม ก็ควรเปลี่ยนบริษัท
3. ตกลงราคาและรายละเอียดงานให้เข้าใจก่อนเริ่มงาน
ราคาเป้นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อนมาก ๆ ต้องตกลงทุกอย่างที่ต้องการให้อยู่ในงบ แต่ก็ต้องไม่ทิ้งดีเทลที่อยากได้ในงาน ซึ่งทาง Wedding Planner จะเป็นผู้ประเมินราคา ว่าสิ่งที่ต้องกรนั้นพอจะเป็นไปได้กับงบที่มีหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องคุยด้วยเหตุผลแล
4. อย่าเพิ่งจ่ายเต็มจำนวน
หลายครั้งที่เกิดดราม่า เพราะลูกค้าจ่ายเงินเต็มจำนวน แล้วโดนออแกไนซ์เชิดเงินไป ดังนั้นควรตกลงจ่ายเป็นงวด ๆ หรือจ่ายเป็นมัดจำไปก่อน เพราะบริษัทเหล่านี้มักมีทุนสำรองในการจัดงานอยู่แล้ว เมื่องานเสร็จสมบูรณ์จึงจ่ายที่เหลือ
5. ทำสัญญาให้ชัดเจน
เพราะการทำสัญญาให้เป็นลายลักษณ์อักษร จะเป็นเครื่องมือยืนยันได้ดีว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติงานตามที่ได้หารือกันไว้ อีกทั้งสัญญาจะมีผลต่อการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดปฏิบัติไม่ตรงตามที่ระบุในสัญญา
เมื่อรอบคอบทุกขั้นตอนแล้ว วางใจได้เลยค่ะ ว่าจะไม่เกิดดราม่ากับออแกไนซ์ หรือ Wedding Planner แน่นอน ทั้งยังได้งานที่ตรงใจ และควบคุมงบประมาณได้อีกด้วย