ในยุคที่เราต้องเผชิญกับวิกฤต COVID-19 กันอีกครั้ง แน่นอนว่ากลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคู่รัก เพราะเมื่อสถานการณ์รอบตัวตึงเครียดก็เป็นธรรมดาที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้หลายคนเกิดอาการเครียด และนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นกับคู่รักและคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นในยุค COVID-19 เช่นนี้ อยากชวนคู่รักและทุกๆ คนหันกลับมาดูแล และประคับประคองจิตใจของกันและกัน เพื่อก้าวพ้นวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน
1. เริ่มต้นจากการยอมรับและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความจริงในปัจจุบัน
ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการใช้ชีวิตคู่แน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ต้องเริ่มต้นจากตัวเองก่อน โดยการจัดการความคิด ด้วยการยอมรับว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกกังวลและประสบความยากลำบากในการจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความกังวลเป็นเพียงสัญชาตญาณการต่อสู้เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกังวลกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานๆ โดยไม่จำเป็น การเสพข่าวเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งวันย่อมไม่เกิดผลดี
2. เอาใจใส่คนรักให้มากขึ้น และอย่าลืมแสดงออกถึงความรักที่มีให้กัน
แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้หลายคนเกิดความเครียด ดังนั้น การดูและสภาพจิตใจของคนใกล้ตัวเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมหันกลับไปมองดูคนรักว่าในช่วงนี้เขารู้สึกอย่างไร มีความเครียดบ้างไหม ซึ่งวิธีจัดการปัญหาของเขาหรือเธออาจจะแตกต่างกับคุณ คุณจำเป็นต้องคอยสังเกตว่าคู่รักของคุณต้องการพื้นที่ส่วนตัวหรือต้องการการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางไหน การสื่อสารเพื่อบอกความต้องการ ความรู้สึกหรือความคิดของคุณให้คู่รักฟัง รวมไปถึงการแสดงความเอาใจใส่เป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นกว่าในช่วงเวลาปกติเสียอีก
3. จัดระเบียบชีวิตใหม่
ช่วงนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากยังใช้วิถีชีวิตอย่างไม่เตรียมพร้อมมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหาชีวิตคู่ คู่รักจำเป็นที่จะต้องรับบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม ลองหาเวลาที่คุณทั้งคู่สบายใจ แล้วนั่งไล่เรียงภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำ รวมถึงความคาดหวังจากทั้งสองฝ่าย หากมีลูกหรือผู้สูงอายุที่ต้องดูแลในบ้านก็จำเป็นจะต้องแบ่งเวลากันดูแลลูกและผู้สูงอายุด้วย แต่อย่ากดดันตนเองมากเกินไป บางอย่างไม่จำเป็นต้องทำให้ดีเลิศก็ได้ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะมองข้ามได้ก็ให้ปล่อยผ่านไปก่อนเพื่อให้คุณทั้งคู่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในช่วง COVID-19 ได้อย่างยั่งยืน
หลังจากจัดการตารางเวลาเพื่อทำงานบ้านและแบ่งหน้าที่กันแล้ว อย่าลืมจัดสรรเวลาส่วนตัวด้วย เราทุกคนจำเป็นต้องมีเวลาส่วนตัวที่ไม่ใช่เวลาทำงาน อาจจะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาพักจากงานที่คุณทำอะไรคนเดียวอยู่มุมหนึ่งของห้อง การใช้เวลาส่วนตัวนอกจากจะเป็นการเติมพลังชีวิตแล้วยังทำให้แต่ละคนได้เสพข้อมูลตามที่แต่ละคนสนใจ ซึ่งสามารถนำมาพูดคุยกันภายหลังได้ แน่นอนว่าต้องจัดให้มีเวลาใกล้ชิดกันของคู่รักด้วย เช่น การหากิจกรรมที่คุณสามารถทำร่วมกันได้ และควรจะงดพูดถึงอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เพื่อจะได้มีเวลาใส่ใจเรื่องอื่นๆ รอบตัวและใส่ใจคนสำคัญข้างๆ คุณให้มากขึ้น
4. วางแผนและลิสต์สิ่งที่อยากทำด้วยกันหลัง COVID-19
การที่คู่รักได้วางแผนอนาคตร่วมกัน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพราะแน่นอนว่าความรักที่มีเป้าหมายย่อมยืนยาวกว่าความรักแบบเรื่อยๆ หรือไม่มีความชัดเจน แม้ว่าในยุค New Normal นี้คู่รักอาจจะไม่ได้ไปทำกิจกรรมหรือท่องเที่ยวได้เหมือนก่อน แต่เรื่องแบบนี้เราก็ไม่ควรปล่อยให้เป็นอุปสรรคความรัก ลองชวนคนรักของคุณมาวางแผนและลิสต์สิ่งที่อยากทำด้วยกันช่วงหลัง COVID-19 มีกิจกรรมหลายอย่างที่ทำร่วมกันได้ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น วางแผนจัดบ้าน ห้องนอน หรือจัดสวนสวยๆ ไว้พักผ่อนร่วมกัน หรืออาจจะหาคอร์สเรียนทำอาหารแบบออนไลน์ไว้เรียนด้วยกัน และทำอาหารทานที่บ้าน ลองลิสต์กันดูนะคะ เชื่อเถอะว่าความสัมพันธ์แบบมีเป้าหมาย ยังไงก็ไปรอดในยุค New Normal แน่นอน
5. ตัวช่วยมีอยู่เสมอ
ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ลำบากของคู่รักทุกคู่ แต่การจัดการกับความกังวลที่เกิดขึ้น เรียนรู้วิธีการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ และการปรับวิถีชีวิตใหม่จะทำให้คู่รักก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ง่ายขึ้น แต่หากคุณรู้สึกว่าปัญหาช่างหนักหนาและยังมองไม่เห็นทางแก้ไขปัญหา หรือรู้สึกว่าความทุกข์ทรมานมากเกินปกติ การปรึกษาผู้ชำนาญการ อาทิ จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตหรือปัญหาความสัมพันธ์ได้เช่นกัน